- ชื่อภาษาอังกฤษ : Star Wars: Episode VII: The Force Awakens
- ชื่อภาษาไทย : สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง
- ประเภท : ภาพยนตร์
- แนว : แอคชั่น / แฟนตาซี / ผจญภัย / วิทยาศาสตร์
- ผู้กำกับ : เจ เจ อับรามส์ (J.J. Abrams)
- ผู้แต่ง : Lawrence Kasdan, J.J. Abrams, Michael Arndt และ George Lucas
- ค่าย : Walt Disney Pictures, Lucasfilm และ Bad Robot
- ความยาว : 136 นาที
- ฉาย : 17 ธันวาคม 2015
เงียบหายกันไปเสียนาน… หลังจากปล่อยทั้งตัวอย่างและข่าวลือมากระตุ้นความกระหายกันอย่างกระปิดกระปอยเป็นระยะๆ ตั้งแต่ปลายปี 2014 ทั้งที่กำลังใกล้กำหนดฉายเข้าไปทุกที แต่เนื้อเรื่องตัวหนังส่วนใหญ่ก็ยังคงถูกเก็บเป็นความลับ (เกือบๆ) เงียบกริ๊บ! ล่าสุด! Lucas Film ภายใต้สังกัดใหม่อย่าง วอลต์ ดิสนีย์ พิกเจอร์ส ก็ปล่อยโปสเตอร์และตัวอย่างที่ 3 ของมหากาพย์สงครามภาคต่อข้ามจักรวาลมาแล้วอีกครั้ง และก็ยังคงได้รับความสนใจจากแฟนที่รอคอยการกลับมากว่า 9 ปี หลังจาก Star Wars Episode III: Revenge of the Sith เมื่อกลางปี 2005
เรื่องราวในภาคนี้ก็เป็นเหตุการณ์ต่อจากภาคก่อน 30 ปี โดยข่าวดีที่หลายๆ คนอาจทราบกันแล้ว ก็คือ ได้นักแสดงชุด Star Wars VI: Return of the Jedi ทั้ง แฮร์ริสัน ฟอร์ด (ในบท ฮัน โซโล), แคร์รี่ ฟิชเชอร์ (ในบท เจ้าหญิงเลอา) และ มาร์ค ฮามิลล์ (ในบท ลุค สกายวอล์คเกอร์) มารับบทบาทต่อจากเดิม นั่นจึงทำให้ตัวนักแสดงภาคนี้แลดูมีวิวัฒนาการทางอายุที่(แก่ขึ้น) สมวัยกับไทม์ไลน์ของตัวละครในหนังแบบลงตัวพอดิบพอดี…
“กาลครั้งหนึ่ง ณ กาแล็กซี่อันไกลโพ้น…”
หลังจากผ่านเหตุการณ์รบที่ดวงจันทร์เอนดอร์ (EP6) มาได้ 1 ปี กับอีก 4 วัน…
กองทัพจักรวรรดิ์ที่หลงเหลือ ที่นำโดย“Grand Moff Randd”ตัดสินใจเปิดศึกใหญ่กับกองทัพกบฎบนน่านฟ้าของดาวจัคคู (Jakku) โดยฝ่ายกองทัพกบฎหวังที่จะเข้ายึดยาน Star Destroyer เพือหวังปิดฉากศึกนี้ให้เร็วที่สุด จนกลายเป็น “ยุทธการจัคคู”
***Battle of Jakku ที่เป็นฉาก DLC ของเกม Star Wars Battlefront นี่ละ***
แต่ทว่าทางฝ่ายจักรวรรดิ์ไหวตัวทัน จึงทำการส่งหน่วยเล็กๆของตนลอบเข้าไปบนยานดังกล่าว เพื่อทำลายยานตนเองทิ้ง ป้องกันไม่ให้ฝ่ายกบฎนำไปใช้ต่อ ด้วยการบังคับให้พุ่งโหม่งดาวจัคคู และสงครามจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายกบฎอีกครั้ง เป็นอันสิ้นสุดสมรภูมิใหญ่แห่งดาวดวงนี้…
หลังจากสงครามโค่นล้มจักรวรรดิ์ ของฝ่ายกบฎ ก็ผ่านไปแล้ว 30 ปี…(EP6)
ลุค สกายวอล์คเกอร์ ได้หายสาบสูญไป…ซักที่ในอวกาศ…
***ในนิยายจักรวาลขยาย ได้ลือว่า ลุค สกายวอล์คเกอร์ เขาเร้นกายเพื่อตามหา Jedi Artifact พื้นฟูนิกายเจได ที่ดาวดวงหนึ่งในสุดขอบจักรวาล***
ส่วนกองกำลังจักรวรรดิ์ ที่ได้สูญเสียแกนกลางของอำนาจไปแล้วเมื่อ30ปีก่อน ก็ได้รวมตัวกันใหม่ในเขต Unknown Sector (แดนลึกลับไกลโพ้น) ภายใต้ชื่อ“ปฐมภาคี” (1st Order) นำโดยผู้นำสูงสุด “สโนค” (Supreme Leader Snoke) เพื่อที่จะกลับมาทวงคืนความแค้นต่อกลุ่มกบฎหรือสาธารณรัฐใหม่
***The First Order คือ”หนึ่งในผลลัพท์”ของการรักษาเสธียรภาพและสถานการณ์ของฝ่ายจักรวรรดิ จึงได้มีการปล่อยข่าวว่าจักรพรรดิยังไม่ตายแต่ประการใด และทุกอย่างเป็นเพียงข่าวลวงของฝ่ายกบฎ แต่แผนการโปรโมทล้างสมองคนในจักรวาล ประสปผลไม่เต็มที่ เพราะฝีมือของ “ฮาน โซโล” ที่ไปทำลายการกระจายข่าวสารของจักรวรรดิตามจุดต่างๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีดาวเคราะห์ที่ยังคงได้รับข่าวสารผิดๆนี้อยู่ จึงเป็นจุดที่ทำให้กองทัพจักรวรรดิ์ยังคงมีอำนาจต่อไป และแน่นอนว่า กองกำลังจักรววรดิ์ ไม่ได้มีแค่The First Order เท่านั้น แต่ยังมีกองกำลังแบบนี้กระจายไปทั่วกาแล็กซี่ รอคำสั่งวันโต้กลับฝ่ายกลุ่มกบฎ หรือสาธารณรัฐใหม่ เท่านั้น…***
BB-8 มาสคอตตัวแทนที่ผกก. JJ เอบรามส์ ได้ใส่ลงไป เพื่อทดแทน R2D2 และด้วยความน่ารักของมัน ทำให้ผู้ชมได้อมยิ้มทุกครั้งที่มีบทบาท และในระหว่างภารกิจออกตามหา “แผนที่” ที่ระบุพิกัดของ “ลุค สกายวอล์คเกอร์” อัศวินเจไดคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิต ในหมู่บ้านเล็กๆของดาวจัคคูของเหล่าปฐมภาคี “โพ ดาเมรอน” นักบินยอดฝีมือของฝ่ายกบฎได้ถูกปฐมภาคีจับตัวไปเพื่อเค้นเอาความลับของชิ้นส่วนแผนที่ แต่ชิ้นส่วนที่ว่า ถูกส่งมอบให้ “BB-8″ หุ่นดรอยด์ช่วยบินของเขาก่อนหน้าที่จะถูกจับ และให้ไปนัดเจอกับเขาที่ไหนซักที่ของดาวจัคคู… จนกระทั่ง BB-8 ได้พบกับ”เรย์” เด็กสาวบนดาวจัคคู ที่ใช้ชีวิตอยู่กับการหาเศษเหล็กจากสงครามใหญ่เมื่อ30ปีก่อน(Battle of Jakku) เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ส่วน โพ ดาเมรอน ถูกจับตัวไปสอบสวนเพื่อหาที่ซ่อนของชิ้นส่วนแผนที่โดย “ไคโล เรน” นายพลหนุ่มผู้บูชาด้านมืดของพลัง (Acolytes of the Beyond) และยังเป็นศิษย์เอกมือขวาของผู้นำสโนค ได้พยายามล้วงเอาความลับ จนรู้ว่าชิ้นส่วนแผนที่ ยังอยู่บนดาวจัคคู
หลังจากนั้น โพ ก็ถูกช่วยเหลือโดย “สตอร์มทรูปเปอร์ FN 2187″ ที่เห็นความเลวร้ายของปฐมภาคี จากการสังหารหมู่คนในหมู่บ้านหลังจากจับตัวโพมาได้…และโพ ก็เรียกพลทหารคนนั้นว่า “ฟินน์” ฟินน์ และ โพ ถูกยิงร่วง และร่อนลงมายังดาวจัคคู เพื่อมาพบกับ BB-8 แต่ทว่าโพหายตัวไปก่อนที่ฟินน์จะฟื้นขึ้น ทำให้ฟินน์เดินทางบนดาวจัคคูไปเรื่อยๆ จนพบกับเรย์ และ BB-8 ในที่สุด…
และโชคชะตาพาให้คนทั้งสอง ที่ไม่มีที่มาที่ไป ไร้จุดหมาย มาร่วมต่อสู้ รับมือกับสงครามอวกาศครั้งใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น…
ตัวละคร
ฟิน (Finn) รับบทโดย John Boyega
“สตอร์มทรูปเปอร์รหัส FN 2187″ หรือที่เพื่อนร่วมรุ่นเรียกเขาสั้นๆว่า “87″ เป้นเด้กที่เกิดจากครอบครัวที่ฝักฝ่ายปฐมภาคี และยกให้ทางหน่วยงานไปเลี้ยงตั้งแต่เกิด เป็นทหารสตอร์มทรูปเปอร์ที่มีผลงานยอดเยี่ยมของหน่วยฝึก มีเพื่อนร่วมรุ่น3คน ได้แก่ FN 2199 (ฉายาว่า”ไนน์”) /FN 2000 (ฉายา ซีโร่) และ FN 2003 (ฉายา สลิป) ทั้งหมดนี้ ถูกฝึกสอนโดย “กัปตันฟาสม่า” (Cpt.Phasma) ทหารหญิงแกร่งของกองทัพจักรรวรรดิ์ /ไตลอดการฝึกในหน่วย FN 2187 ก้สามารถทำหน้าที่ได้ดีมากจนกัปตันฟาสม่าเอ่ยปากชม และยังอยู่ในการพิจารณาของ “นายพล ฮักซ์” (General Hux) อีกด้วย แต่ระหว่างนี้ ก็รับงานภารโรงไปก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้ง… แต่ในภารกิจภาคสนามครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่หมู่บ้านเล็กๆของดาวจัคคู เพื่อนของเขา FN 2003 (ฉายา สลิป) ถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของ โพ ดาเมรอน ทั้งๆที่อยากจะล้างแค้นให้เพื่อน…แต่ก็มาเห็นภาพความโหดร้ายของปฐมภาคี ที่ลงมือสังหารชาวบ้านอย่างเลือดเย็น ทำให้เขาเพลี่ยนใจมาช่วยโพ โดยหวังว่าเขาจะได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง…และ “ฟินน์” ก็คือชื่อที่ โพ ดาเมรอน ตั้งให้เขาระหว่างหลบหนีนั่นเอง…
เรย์ (Rey) รับบทโดย Daisy Ridley
เรย็ เป็นเด็กสาวอาภัพ ที่ถูกครอบครัวของเธอทอดทิ้ง “ด้วยสาเหตุบางอย่าง” ตั้งแต่ยังเล็ก เธอจำหน้าพ่อแม่ไม่ได้ด้วยซ้ำ และยังใช้ชีวิตอย่างยากลำบากบนดาวทะเลทราย Jakku ด้วยการเก็บเศษเหล็กแลกอาหารสามมื้อไปวันๆ เรย์ไม่มีจุดหมายในชีวิต จนกระทั่งมาเจอกับ BB-8 และฟินน์ ที่จะ”ปลุกบางอย่าง” ในตัวของสาวน้อยคนนี้…และในภาคต่อๆไป เธอคือกุญแจสำคัญของเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย!
ฮาน โซโล (Han Solo) รับบทโดย Harrison Ford
นายพลหญิงเลอา (Liea) รับบทโดย Carrie Fisher
ฮาน ยึดอาชีพ”นักค้าของเถื่อน” ตั้งแต่หนุ่มยันแก่ แต่ถึงจะเป้นคนนกกฎหมาย แต่เขาก็มีส่วนในชัยชนะของฝ่ายกบฎมาหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังเป้นสามีของ “นายพลหญิง เลอา ออร์กาน่า” อดีตเจ้าหญิงแห่งดาวเคราะห์ออลโดรัน ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำฝ่ายกบฎ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ลงรอยกัน ในเรื่องของ”ลูกชาย” ที่หลงทางผิดไป ทั้งคู่ต่างโทษตัวเองว่าเลี้ยงดูลูกชายไม่ดี จนสุดท้ายก็แยกทางกัน…
ไคโล เรน (Kylo Ren) รับบทโดย Adam Driver
ไคโล เรน ถือเป็นเพียง “Acolytes of the Beyond” หรือ “ผู้เชิดชูศาสตร์มืด”ผู้หลงไหลในพลังด้านมืด (จะว่้าเป็นโอตาคุด้านศาสตร์มืดก็ไม่ผิดนัก) คนกลุ่มนี้มักจะออกตามหาวัตถุต่างๆที่เกี่ยวข้องกับด้านมืดของพลังเพื่อนำมาบูชา ต่อมาก็พัฒนาเป็นกลุ่มพิเศษหนึ่งที่ชื่อว่า “Knight of Ren” นั่นก็คือกลุ่มของ Kylo Ren นั่นเอง แต่ถึงจะบอกว่าเป็นโอตาคุ แต่พลังของไคโล เรน นั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะเขาเป็นถึง “ลูกศิษย์ของ ลุค สกายวอล์คเกอร์”รุ่นแรกๆ ด้วย แต่ก็ยังไม่เทพขนาดนั้น เพราะเขายังฝึกกับผู้นำศาสตร์มืดคนใหม่ “ผู้บัญชาการ สโนค”ยังไม่สำเร็จ 100% จุดเด่นในพลังของเขาคือ ความสามารถพิเศษที่ใช้ Force ในการอ่านใจ เขาจึงนำจุดนี้ไปใช้งานในการล้วงเอาข้อมูลความลับจากศัตรูของจักรวรรดิ์ รวมไปถึงการป้องกันตนจากอาวุธลำแสงต่างๆด้วย”ไลท์เซเบอร์ชนิดพิเศษ” ที่เขาทำมันขึ้นมาเอง (จึงเป็นสาเหตุที่ลำแสงในไลท์เซเบอร์ถึงไม่เสถียร) แต่ด้วยอารมณ์ที่แปรปรวนตามประสาวัยรุ่นของเขา จึงเป็นเหมือนคนเก็บกด หาที่ระบายด้วยการพังข้าวของเหมือนเด็กๆ
Review 9/10 RANK A
เป็นหนังที่แอดฯตั้งตารอคอยจริงๆครับ ถึงขั้นปฏิเสธหนังทุกเรื่องที่ฉายช่วงนั้น เพื่อมาดู”ตำนานบทใหม่”ของสงครามลิเกอวกาศ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ…มันคือความเอ่อล้น ประทับใจแฟนๆStar Wars ตั้งแต่อินโทรขึ้นพร้อมตัววิ่งแบบคลาสสิค เหมือนเจอกับเพื่อนเก่า ที่กลับมาหล่อเฟี้ยวขึ้น เพราะการเล่าเรื่องที่กระชับ ฉับไว ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อเหมือนภาคก่อนๆที่เคยจั่วไว้…งานนี้ต้องขอขอบคุณ ผู้กำกับ J.J. Abrams ผู้ปลุกชีพ STAR TREK ที่ดันเป็นติ่งสตาร์วอร์ตัวพ่อ มากำกับเรื่องนี้ หนังจึงเดินเส้นเรื่อง ฟิลลิ่ง บรรยากาศที่ดูเหมือนจะเอาของ “EP4: The New Hope” มาเป็นPattern ของเรื่องภาคนี้
หลายคนที่ได้ดู คงอดยิ้มไม่ได้กับ Gimmick เล็กๆน้อยๆที่ทำมาคารวะหนังไตรภาคคลาสสิค (Ep4~6)ที่แฟนๆเห็นแล้วร้อง“เฮ้ย!”รวมไปถึงฉากการปรากฏตัวของ “ยานมิลเลเนี่ยม ฟอลค่อน” และพ่อค้าของเถื่อนดวงกุด “ฮาน โซโล” และ “ชิวแบ็คก้า” คู่ซี้หน้าขนของเขา ที่ร่วงโรยตามวัยและกาลเวลา(ฮา)
===
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “ตัวละคร” ทุกตัวมีมิติ เบื้องหน้าเบื้องหลัง มีเหตุ และผลรองรับ (ถึงบางอยางจะออกแนว”แถ” ก็ตาม) ซึ่งตรงนี้ขอแยกเป็นตัวๆไป…
-ฟินน์
เป็นตัวละครที่แอดฯรู้สึก “เหมือนโดนเทรลเลอร์หลอก” เพราะที่เราๆท่านๆรู้กันจากเทรลเลอร์ว่า ฟินน์ เริ่มต้นจากการเป็นสตอร์มทรูปเปอร์ และจบลงที่การควงกระบี่แสง ที่เป็นอาวุธของเจได…เรามโนกันไปว่า “พี่มืดนี่แหละ เจได” จนมีเสียงวิจารณ์มากมายว่าไม่หล่อมั่งละ / ดูไม่สมเป็นอัศวินเจได / ดำ บลาๆๆๆๆ
“เราถูกJJหลอกแล้ว!!”
ฟินน์ คือเด็กที่ถูกทางปฐมภาคีเลี้ยงดู จนวันที่ไปลุยงานจริงกลับพบว่าสิ่งที่ทำมันเลวร้ายจึงอยากกลับตัวและกลายเป็นตัวละครที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในหนัง เพราะมาแนวขี้โม้นิดๆ ดูกวนตีนพอสมควรเลย และเป็นตัวละครที่มีการพัฒนา บทไม่นิ่ง
– เรย์
เด็กสาวคนเก็บขยะขาย สวยทะลุจอ เป็นตัวละครที่คาแรคเตอร์เป็นกราฟนิ่ง…คือมีส่วนร่วมกับหนังเยอะมากก็จริง แต่ยังไม่มีมิติของตัวละครเท่าไหร่…เพราะนี่เพิ่งเริ่มเรื่องบทใหม่เอง แถมเป็นตัวละครที่น่าค้นหา และ “ยังเป็นที่มาของชื่อภาคนี้“ด้วย เธอเป็นใคร? ลูกเต้าเหล่าใคร? ถูกทิ้งไว้ที่จัคคูเพื่ออะไร? ภาคหลังๆเราคงได้รู้กัน (แถมชุดขาวๆ บางๆ เห็นแล้วใจสั่นจริงๆ)
-ไคโล เร็น
ตัวละครที่เห็นแวบแรกแล้ว ร้อง”เหยดดด” ดังมาก คือ look วายร้ายเต็มขั้น ยิ่งรู้มาว่า”เป็นศิษย์เก่าของ ลุค สกายวอล์คเกอร์” ด้วยแล้ว แอดฯปักธงเลยว่ส “โหดแบบเวเดอร์แน่นอน”…ซึ่งเราก็โดนเทรลเลอร์ของผกก. JJ หลอกเช่นกัน !!เพราะไคโล เรน โดยส่วนตัว ก็มองไอ้หมอนี่มัน”กากระดับหยำฉา”จริงๆ คือเก่งระดับนึงในกลุ่มภาคี แต่กากระดับโลกกว้าง…แต่ในความกากมันมีความ Confuse มี Conflict ในตัวแน่นอน…มันต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่างกว่าจะพาพี่แกจะมาจุดนี้ได้ และอะไรที่เป็นต้นเหตุให้ไอ้หมอนี่เดินสายนี้…แต่ถึงอย่างนั้น ในตัวพี่แกยังมีความ”ลังเล”และ”ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหลงเหลืออยู่” ดูจากสีหน้าที่แบบโคตรลนในช่วงท้าย หลังจาก”ฆ่าพ่อตัวเองตาย” อารมณ์แบบ “กุมาสายนี้แล้ว ถอยกลับไม่ได้ ต้องไปให้ถึงอย่างเดียว” ซึ่งถ้าเอากันตามจริง พี่แกก็ยังเป็นแค่”ผู้บูชาด้านมืดของพลัง” ยังไม่ใช่ “ซิธลอร์ด” (Sith Lord) แบบเวเดอร์ / พัลพาทีน / เคาท์ดูกู